EP.799 รีวิว คอนโด ลุมพินี เพลส บางนา กม.3 Lumpini Place Bangna Km.3
สวัสดีผู้อ่านชาว HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานเราจะขอพาไปชมโครงการ Lumpini Place บางนา-กม.3 จาก L.P.N Development คอนโด Low Rise ย่านบางนา ในซอยบางนา – ตราด 23 หลัง Central Plaza บางนา ไม่ไกลจาก BTS อุดมสุข พร้อมด้วยรถรับ-ส่งจากโครงการไปยังรถไฟฟ้า สถานีอุดมสุข
Lumpini Place บางนา กม.3 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 609 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 5 ไร่ มีห้องพักทั้งหมด 3 แบบ คือแบบ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.50 – 39 ตร.ม. คาดว่าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ปลายปี 2560
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น Lobby, Mailbox แยกอาคาร, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องเรียนรู้, ห้องคุณหนู, ห้องเปี่ยมสุข, ห้องเฮ้าส์เวิร์ค, สวนรวมใจ, ร้านค้า, ที่จอดรถ 200 คัน รวมซ้อนคัน คิดเป็น 34% ของทั้งโครงการ, เข้า-ออกโครงการระบบ Access Card Control และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 1.45 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | ลุมพินี เพลส บางนา กม.3 Lumpini Place Bangna Km.3 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) L.P.N. |
เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 5 ไร่เศษ |
จำนวนตึก | 3 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 200 คัน หรือประมาณ 34% (รวมจอดซ้อนคัน) |
จำนวนลิฟท์ | ลิฟท์โดยสารอาคารละ 2 ตัว |
โซน | เขตบางนา |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 2ส, 38ร, 45ส, 46ร, 48ร, 98ร, 132ร, 180, 558 |
ที่ตั้ง | ติดถนนบางนา-ตราด 23 แขวงบางนา เขตบางนา กทม. |
กำหนดการ | – |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ ปลายปี 2560 |
ราคา | เริ่ม 1.45 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม |
|
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 43 บาท/ตร.ม/เดือน (ล่วงหน้า 1 ปี) และเก็บ 38 บาท/ตร./เดือน ในปีที่ 1-2 แรก, ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม., |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | ลุมพินี เพลส บางนา กม. 3 คอนโดใหม่ หลังเซ็นทรัล บางนา ใกล้ทางด่วน สะดวกสบายทุกการเดินทาง ราคาเริ่มต้นที่ 1.45 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยบางนา-ตราด 23 แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
พิกัด : 13.6732805, 100.6366995
แผนที่จากทางโครงการแสดงที่ตั้งโครงการและความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ หลักๆจะเป็น Central Plaza บางนา และ Big C บางนาค่ะ และจากภาพเราจะเห็นว่าตัวโครงการจะตั้งอยู่ในซอยบางนา – ตราด ที่สามารถเชื่อมกับถนนได้ 3 เส้นคือถนนบางนา – ตราด, ถนนศรีนครินทร์ และถนนอุดมสุข
โครงการ Lumpini Place บางนา กม.3 ตั้งอยู่ในซอยบางนา – ตราด 23 ฝั่งมุ่งหน้าถนนบางนา – ตราด ตัวซอยจะสามารถทะลุไปบนถนนหลักได้ 3 เส้นคือ ถนนบางนา – ตราด, ถนนศรีนครินทร์ และถนนอุดมสุข จุดเด่นของที่ตั้งโครงการนี้คือใกล้ Central Plaza บางนา และ Big C บางนา ในระยะทางประมาณ 600 เมตร
ทำเลบางนาจริงๆแล้วถือว่าออกมาแถบชานเมืองแล้วค่ะ แต่ก็มีคนอยู่อาศัยแถบนี้เป็นจำนวนมาก จุดเด่นสำคัญของทำเลนี้ก็คือตัวถนนบางนา – ตราดเองนี่แหละค่ะ โดยตัวถนนบางนา – ตราดนี้จะเป็นถนนเส้นใหญ่ กว้าง 12 เลน มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่แยกบางนา ยาวไปถึงบางปะกง(จ.ฉะเชิงเทรา) เป็นถนนเส้นสำคัญที่ใช้เข้าออกเมือง มีรถสัญจรผ่านไปมาเยอะ ทั้งรถบรรทุก รถยนต์ส่วนบุคคล โดยช่วงถนนที่ตัวโครงการตั้งอยู่ถือว่าเป็นช่วงถนนที่คึกคักของถนนเส้นนี้เลยค่ะ เพราะยังเป็นช่วงถนนที่อยู่ใกล้เมือง ใกล้ Central บางนา
สภาพแวดล้อมในซอยบางนา – ตราด 23 หรือซอย Central บางนา จะมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก รวมไปถึงมีคนอยู่อาศัยเยอะเช่นกัน โดยความอุดมสมบูรณ์ในซอยจะเริ่มตั้งแต่ต้นซอยมี Central บางนาและ Big C เข้าซอย มาจะมี Bizzo บางนา เป็น Avenue ภายในมีร้านอาหารและบริการอยู่หลายร้าน นอกจากนั้นก็จะมีร้านอาหารดีๆหลายร้าน หลากหลายประเภท ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารทะเล, ร้านกาแฟ และร้านบุฟเฟ่ต์ เป็นต้น ส่วนลักษณะของที่อยู่อาศัยภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดทั้ง High Rise , Low Rise และอพาร์ทเม้นต์หลายแห่ง
นอกจากนั้นซอยนี้จะสามารถใช้ทะลุออกไปยังถนนศรีนครินทร์และถนนอุดมสุขได้ทางซอยอุดมสุข 60 และซอยศรีนครินทร์ 56 และ 58 โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่ช่วงกลางซอยระยะประมาณ 600 เมตร จากปากซอยฝั่งบางนา – ตราด และระยะทางประมาณ 1.2 กม. ถึงถนนศรีนครินทร์ และระยะทางประมาณ 950 ถึงถนนอุดมสุข
- ถนนอุดมสุข (ลัดออกทางซอยอุดมสุข 60) ออกไปเส้นสุขุมวิทใกล้ BTS อุดมสุขและถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ใช้วิ่งไปประเวศ, สุวรรณภูมิได้
- ถนนศรีนครินทร์ (ลัดออกทางซอยศรีนครินทร์ 56 และ 58) สามารถใช้เดินทางไปเส้นอ่อนนุช, พัฒนาการ
- ถนนสุขุมวิท (ตัดกันที่แยกบางนา) สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปทางวัฒนา, อโศก หรือโซนกลางเมืองได้หมดค่ะ
- วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ สามารถใช้เดินทางไปอ่อนนุช, รามคำแหง, มอเตอร์เวย์
- ถนนกิ่งแก้ว สามารถใช้เดินทางไปสุวรรณภูมิ, ลาดกระบังได้ค่ะ
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยจะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 7.1 กม. ขับรถไปประมาณ 9 – 15 นาทีก็จะถึงจุดขึ้นทางด่วนแล้วค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกหรือวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้เส้นมุ่งหน้าลงทางใต้จะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 7.6 กิโลเมตรใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 8 – 15 นาทีค่ะ
และจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งวิ่งขึ้นทางเหนือจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 – 20 นาทีค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ค่อนข้างสะดวก รถไฟฟ้าในปัจจุบันจะมีสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานีอุดมสุข มีระยะทางจากโครงการประมาณ 4.6 กม. โดยจากตัวโครงการจะมีรถแวน 2 คัน สำหรับรับส่ง จากโครงการไปยัง BTS อุดมสุข (เสียเงินค่าโดยสาร) นอกจากนั้นนอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากลาดพร้าวมาถึงสำโรง โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ จะสามารถเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้าสายสีเทา, รถไฟฟ้าสายสีส้มและ Airport Rail Link โดยวิ่งมาตามเส้นลาดพร้าว, ถนนศรีนครินทร์ และสิ้นสุดที่สถานีสำโรง รวมทั้งสิ้น 23 สถานี และจะมีสถานีแยกศรีอุดมที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
ส่วนการโดยสารรถสาธารณะอื่นๆ จะสามารถเรียก Taxi ได้ที่หน้าโครงการ หรือจะเดินมาหน้าปากซอยฝั่งบางนา – ตราด ระยะทางประมาณ 600 เมตร ข้าง Central บางนา ก็จะมีรถตู้วิ่งไปศรีนครินทร์ และมีคิวพี่วันให้นั่งเข้ามายังตัวโครงการได้ นอกจากนั้นจะมีป้ายรถเมล์ เดินจากหน้าปากซอยไปอีกประมาณ 50 เมตร มีรถเมล์สาย 2ส, 38ร, 45ส, 46ร, 48ร, 98ร, 132ร, 180, 558 และมีสะพานข้ามฝั่งถนนก็จะมีรถเมล์สายเดียวกันวิ่งเข้าเมืองค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูง ภายในโครงการเองจะมียูนิตร้านค้า 5 ยูนิต ซึ่งยังไม่สรุปว่าจะมีร้านอะไรมาเปิดบ้าง แต่คร่าวๆน่าจะมีร้านสะดวกซื้อและร้านซักรีดค่ะ นอกจากนั้นภายในตัวซอยบางนา – ตราด 23 นี้ จะมีร้านอาหารมากมายหลายร้าน ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารตามสั่ง, ร้านคาเฟ่, อาหารทะเล จนถึงร้านบุฟเฟ่ และ Bizzo บางนา เป็นอเวนิวมีร้านอาหารภายในเยอะหลายร้าน ก็มีในระยะที่สามารถเดินถึงได้ไม่ไกลเลยค่ะ
และจุดเด่นของความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้คือ Central Plaza บางนา และ Big C บางนา ที่ปากซอย มีระยะจากโครงการประมาณ 600 เมตร สามารถเดินถึงได้เลยค่ะ นอกจากนั้นความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างของโครงการนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์ค่อนข้างสูง บนถนนบางนาจะมีห้างใหญ่ๆเยอะ นอกจาก Central และ Big C แล้วถัดมาก็จะมี Chic Republic และ Index Living Mall ถัดมาอีกหน่อยก็จะมี Tesco Lotus Extra และจะมีห้างใหญ่ที่เด่นๆของโซนนี้อีกคือ Mega บางนาและ Ikea อยู่บริเวณแยกบางนาตราดตัดกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท ส่วนใครอยากเดินตลาดนัดใหญ่ๆก็สามารถขับไปตามเส้นกาญจนาภิเษกขึ้นไปทางอ่อนนุชก็จะมี Number One Plaza ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีทั้งตลาดสดตลาดนัดและ Hyper Market อยู่ด้านใน ที่มีไว้รองรับนักศึกษาม. รามคำแหงและ ABAC บางนาค่ะ
ส่วนโรงพยาบาลใกล้เคียงก็จะมีโรงพยาบาลไทยนครินทร์และปิยมินทร์ สวนสาธารณะที่ใกล้โครงการจะมีสวนหลวงร.9 เป็นสวนขนาดใหญ่บนเส้นศรีนครินทร์ค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นกันบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนาเลี้ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนานถนนบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงเทราขับตรงมาตามทางเรื่อยๆ สังเกต Central Plaza บางนา ทางซ้ายมือ และเลี้ยวเข้าซอยบางนา – ตราด 23 ตรงเข้าซอยไปเรื่อยๆประมาณ 600 เมตร ที่ตั้งโครงการจะอยู่ทางขวามือ ส่วน Sale Office จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > แยกบางนา > ทางคู่ขนานถนนบางนา – ตราด >ซอยบางนา – ตราด 23 > Lumpini Place บางนา กม.3
เริ่มการเดินทางบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนา เราจะเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายไปชลบุรี
ถึงแยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา – ตราด
เมื่อเข้ามาบนเส้นบางนา – ตราดแล้วเราเบี่ยงเข้าเลนซ้ายเพื่อเข้าเส้นคู่ขนานค่ะ
ขับเข้าเลนซ้ายแล้วตรงตามทางมาเรื่อยๆ ไม่ขึ้นสะพานนะคะ
เราขับมาสักพักจะเห็นเซ็นทรัลพลาซา บางนา ทางซ้ายมือ ถึงตรงนี้ให้เราชิดเลนเข้าเลนซ้ายได้แล้วค่ะ
ติดกับเซ็นทรัลบางนาเราจะเห็นซอยบางนาตราด 23 ติดกันจะเป็นบิ๊กซีบางนา
เราเลี้ยวเข้ามาในซอยบางนาตราด 23 แล้วจะเห็นคิวพี่วินทางซ้ายมือ ซึ่งใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ(รถตู้ หรือรถเมล์) ก็สามารถที่จะใช้บริการพี่วินเพื่อเข้าไปยังโครงการได้ค่ะ
ภายในซอยจะมีทั้งคอนโดและร้านต่างๆ นอกจากนั้นยังมี Bizzoบางนาซึ่งเป็น Avenue ขนาดใหญ่ภายในมีร้านอาหารแบรนด์ต่างๆหลายร้านค่ะ
ขับเข้าซอยมาประมาณ 600 เมตร เราจะเห็นที่ดินของโครงการ Lumpini Place บางนา กม.3 ทางขวามือ
เราขับเลยที่ดินของโครงการมาอีกหน่อยจะเห็นสำนักงานขายอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
- ถนนบางนา – ตราด 600 เมตร
- ถนนอุดมสุข 1 กม.
- ถนนศรีนครินทร์ 1 กม.
- แยกหนองบอน 1.4 กม.
- แยกศรีนครินทร์ 1.6 กม.
- แยกอุดมสุข 3.1 กม.
- ถนนสุขุมวิท 4.5 กม.
- ถนนสรรพาวุธ 5.3 กม.
- วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก 6.9 กม.
- ถนนเทพารักษ์ 7.3 กม.
- แยกศรีเทพา 7.4 กม.
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
- Bizzo บางนา 270 เมตร
- Central Plaza บางนา 600 ม.
- Big C บางนา 600 ม.
- Index Living Mall 2.3 กม.
- Paradise Park 2.5 กม.
- Mini Big C 3.2 กม.
- Tesco Lotus Express 3.3 กม.
- Big C ศรีนครินทร์ 4.5 กม.
- Makro ศรีนครินทร์ 4.6 กม.
- Foodland 6 กม.
- Mega บางนา 6 กม.
- Seacon Square 6 กม.
- Ikea 7.2 กม.
- เมืองแก้วกอล์ฟคอร์ส 10.5 กม.
- อิมพีเรียล สำโรง 10.9 กม.
- Tesco Lotus ศรีนครินทร์ 11.5 กม.
- Number One Plaza 24.1 กม.
- ร.พ. ไทยนครินทร์ 1.1 กม.
- ร.พ. ศิครินทร์ 6.1 กม.
รอบๆโครงการ
สำหรับพื้นที่โดยรอบโครงการ
- ทิศเหนือ ติดกับอพาร์ทเม้นต์ สูง 8 ชั้น และที่ดินเปล่า ซึ่งจะทำให้ตัวอาคารของโครงการถูกบังวิวไว้บางส่วน แต่ระยะห่างระหว่างอาคารมีเพียงพอจึงไม่มีปัญหาเรื่องการถ่ายเทอากาศค่ะ
- ทิศใต้ ติดกับกลุ่มอพาร์ทเม้นต์ สูง 3 – 5 ชั้น และที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับถนนซอยบางนา – ตราด 23 ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่า
หน้าตาโดยรวมของ Sale office ค่ะ
ข้าง Sale Office จะมีที่จอดรถ สามารถรองรับผู้เข้าชมโครงการได้หลายคัน
ภายในออฟฟิศจะมีเคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล
และมีชุดโต๊ะเก้าอี้รองรับสำหรับผู้เข้าชมโครงการหลายชุด ส่วนห้องตัวอย่างจะอยู่ถัดเข้าไปด้านในค่ะ
เรามาดูบริเวณที่ดินโครงการกันบ้าง เริ่มจากฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นที่ดินเปล่า
ฝั่งขวามือจากที่ดินโครงการมองไปเราจะเห็น Grand Soccer Sport, สำนักงานขายและถนนซอยที่วิ่งตรงไปทางถนนศรีนครินทร์และถนนอุดมสุขค่ะ
บรรยากาศโดยรวมภายในซอยค่ะ
ภายในซอยจะมีร้านอาหารหลากหลายร้านทั้งร้านอาหารตามสั่ง, ร้านแหนมเนือง, ร้านบาร์บีคิวบุฟเฟ่ต์, ร้านซูชิพรีเมี่ยม, ร้านอาหารซีฟู้ด
ส่วนจากหน้าโครงการไปทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นถนนซอยฝั่งที่วิ่งตรงไปหน้าปากซอยฝั่งถนนบางนา – ตราดหรือทาง Central Plaza บางนาค่ะ
ติดกับที่ดินโครงการทางซ้ายมือจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ สูง 4 – 5 ชั้น
ถัดมาเป็นอาคารสูง 3 – 4 ชั้นค่ะ และด้านในก็จะมีเวิ้งเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 4 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ชื่อร้านสำราญ เริงใจ
ถัดมาฝั่งเดียวกับทางโครงการจะเป็นอู่ Cockpit
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านนวดแผนไทย
ถัดมาจะมีร้านซูชิฮานะและร้าน Pink Tender อยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นคอนโดคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น
ถัดมาจะมี 7 – 11
และ Bizzo บางนา ซึ่งเป็น Avenue ขนาดใหญ่ ภายในจะมีร้านอาหารหลายร้าน เช่น ร้านเฝอ, ชาบูนางใน, แหนมเนือง, Tuna Ichiban นอกจากนั้นก็จะมีร้านสปา, ร้านขนมหวานอีกหลายร้านค่ะ
จากตัวโครงการเดินมาหน้าปากซอยประมาณ 600 เมตร ก็จะถึง Big C Supercenter และ ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Central Plaza บางนา
หน้าห้าง Central บางนา จะมีสะพานเชื่อมจากในตัวห้างข้ามไปยังอีกฝั่งถนน คนที่ใช้รถโดยสารทั้งรถเมล์และรถตู้สามารถที่จะข้ามไปขึ้นอีกฝั่งเพื่อเดินทางเข้าเมืองได้ค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Lumpini Place บางนา กม.3 เป็นโครงการคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคารตั้งอยู่ในซอยบางนา – ตราด 23 หน้าตาอาคารโดยรวมเรียบๆตามแบบคอนโดกลุ่ม Economy ของลุมพินี ยูนิตพักอาศัยจำนวน 609 ยูนิต + ร้านค้า 5 ยูนิตแบ่งเป็น อาคาร A 238 ยูนิต(+ร้านค้า 5 ยูนิต), อาคาร B 147 ยูนิต, อาคาร C 224 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 5 ไร่เศษ ที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งใต้อาคารและรอบอาคาร รวมประมาณ 200 คัน คิดเป็น 34% (รวมจอดซ้อนคัน) มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว
จากผังรวมโครงการจะเห็นว่าทั้ง 3 อาคาร จะใช้ทางเข้าหลักร่วมกัน โดยตัวทางเข้าหลักจะใช้ระบบ Key Card Access และมีรปภ.ประจำตลอด 24 ชม. เมื่อเข้ามาด้านในโครงการจะเจอถนนหลักที่เชื่อมถึงทุกอาคาร ไปยังที่จอดรถรอบอาคารและใต้อาคาร ส่วน Facility หลักของโครงการจะถูกจัดไว้ตรงกลางระหว่าง 3 อาคาร ซึ่งจะเป็นส่วน Outdoor ส่วน Indoor จะอยู่ในอาคาร B ซึ่งลูกบ้านสามารถเข้าใช้ได้ทุกอาคารค่ะ
มาดูตัว Model กันบ้าง เริ่มจากภาพรวมทั้ง 3 อาคารจะเห็นว่าอาคาร A และ C จะเป็นอาคารทรง L – Shape ส่วนอาคาร B จะเป็นอาคารเดียวที่มีรูปทรงตรงๆหันหน้าไปทางทิศใต้
ภาพรวมด้านหน้าโครงการ จะมีทางเข้าหลักทางขวามือ ส่วนยูนิตที่ชั้น 1 ติดกับหน้าโครงการจะเป็นยูนิตร้านค้า มีทางเดินบังแดดหน้าอาคาร
ซุ้มทางเข้าหลักแยกทางเข้าและออก มีรั้วกั้นไม้กระดกและใช้ระบบ Key Card Access และมีทางคนเดินเข้าโครงการติดกับอาคาร A
ภาพรวมรูปด้านอาคารทางทิศใต้
ภาพรวมรูปด้านโครงการทิศตะวันออก จะเป็นอาคาร C ทั้งหมด
ภาพรรวมอาคารทางฝั่งทิศเหนือ จะเป็นอาคาร A และอาคาร C
ภาพมุมสูงจะเห็นการจัดวางอาคารโดยรวม และจะเห็นที่จอดรถโดยรอบชัดเจน
ส่วนกลางที่ใช้ร่สมกันจะอยู่ตรงกลางโครงการ โดยส่วน Outdoor จะมี สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 8 x 21 เมตร และสวนสาธารณะ
เรามาเจาะดูแต่ละอาคารกันบ้าง เร่ิมที่อาคาร A ชั้น 1 จะเห็นว่าด้านหน้าอาคารทั้งหมดจะเป็นส่วนของยูนิตร้านค้า รวมทั้งหมด 5 ยูนิต ส่วน Lobby และโถงลิฟท์จะตั้งอยู่กลางอาคาร มีลิฟท์บริการ 2 ตัว โดยอาคาร A จะมียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 238 ยูนิต อัตราส่วนลิฟท์โดยสาร 1 : 119 ถือว่าไม่หนาแน่นเท่าไหร่ค่ะ ส่วนพื้นที่ ที่เหลือที่ชั้นนี้จะเป็นที่จอดรถใต้อาคารค่ะ
ผังอาคาร A ชั้น 2 – 8 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยอาคาร A จะมีห้องแบบ Studio กับ 1 Bedroom เท่านั้น โดยแต่ละชั้นจะมีทั้งหมด 34 ยูนิต เป็นห้อง Studio 10 ยูนิต และห้องแบบ 1 Bedroom 24 ยูนิต
อาคาร B ชั้น 1 จะเป็นส่วนของ Facility ส่วน Indoor ของโครงการ โดยจะมีห้อง Fitness, ห้องคุณหนู, ห้องเปี่ยมสุข , ห้องเรียนรู้และนิติบุคคล
สำหรับ Lobby และโถงลิฟท์จะอยู่ช่วงท้ายอาคาร มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 147 ยูนิต อัตราส่วนลิฟท์โดยสาร 1 : 73 ไม่หนาแน่น สบายๆค่ะ
อาคาร B ชั้น 2 – 8 เป็นยูนิตพักอาศัยล้วน มีห้องแบบ 1 Bedroom จำนวน 13 ยูนิต และ 2 Bedrooms จำนวน 8 ยูนิต รวมยูนิตพักอาศัยต่อชั้น 21 ยูนิต
อาคาร C ชั้น 1 เป็นที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมด มีโถงทางเข้าอาคารจะตั้งอยู่บริเวณกลางอาคารค่ะ
อาคาร C ชั้น 2 – 8 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยอาคาร C จะมีห้องแบบ Studio และ 1 Bedroom ยูนิตพักอาศัยต่อชั้น 32 ยูนิต เป็นห้องแบบ Studio จำนวน 18 ยูนิต และห้องแบบ 1 Bedroom จำนวน 14 ยูนิต
ซุ้มทางเข้าหลักแยกทางเข้า ออก รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และ Key Card Access
Facility ส่วน Outdoor จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 8 x 21 เมตร รอบสระมี Terrace นั่งพักผ่อน และมีพื้นที่เชื่อมไปยังส่วน Indoor เช่น Fitness, ห้องคุณหนู, ห้องเปี่ยมสุข ในอาคาร B
พื้นที่ลานออกกำลังกายกลางแจ้งในส่วนของสวนสาธารณะ
ภาพจำลองส่วนสวนสาธารณะ ผ่อนคลายด้วยพื้นที่สีเขียว เพิ่มความสดชื่นภายในโครงการ และเป็นสถานที่สร้างความสัมพันธ์ให้ทุกคนในชุมชน
แบบห้อง
แบบห้องในโครงการจะมีทั้งหมด 3 แบบคือ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms
- ห้องแบบ Studio พื้นที่ใช้สอย 22.50 ตร.ม.
- ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.00 ตร.ม.
- ห้องแบบ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 39.00 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ เราจะพาไปชมกันครบทั้ง 3 แบบเลยค่ะ โดยเริ่มจากห้องแบบ Studio ขนาด 22.5 ตารางเมตร ห้องแบบ 1 bedroom ขนาด 26 ตารางเมตร และห้องแบบ 2 bedroom ขนาด 39 ตารางเมตร
โดยห้องจะขายแบบ Fully Fitted อุปกรณ์ที่แถมมาในห้องจะได้ Built – in เป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดสุขภัณฑ์ครบชุดพร้อม Shower Box และตู้เสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ค่ะ ความสูงฝ้าเพดานทุกห้อง 2.4 เมตร
มาเริ่มต้นจากห้องแบบแรกกันก่อนค่ะ เราจะเริ่มต้นที่ห้องแบบ Studio ขนาด 5.1 x 4.55 เมตร พื้นที่ใช้สอย 22.5 ตารางเมตร
เรามาเริ่มดูที่ตัวแปลนห้องกันก่อนค่ะ เมื่อเข้าไปด้านในจะเจอกับส่วนห้องครัวเป็นพื้นที่เตรียมอาหารขนาดกระทัดรัด ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนพื้นที่ทานอาหารต่อเนื่องไปยังห้องนั่งเล่นและห้องนอน ส่วนระเบียงซักล้างจะสามารถออกไปได้จากห้องนั่งเล่นและห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากส่วนของห้องนอน
มาเริ่มดูห้องของจริงกันต่อค่ะ เริ่มจากประตูทางเข้าจะได้เป็นบานมาตรฐานสีขาว
มือจับก้านโยก พร้อมตัวล็อคมาตรฐาน
เข้ามาด้านในตัวห้อง พื้นปูด้วยลามิเนต หนา 8 มม. ลายไม้ สีน้ำตาลเข้ม พร้อมมีตัวจบติดตั้งมาให้ที่หน้าห้องเรียบร้อย
เข้ามาในตัวห้องเราจะเจอกับพื้นที่โถง ขวามือจะเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ครัว ซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นถัดเข้าไปจะเป็นส่วนของพื้นที่ทานอาหาร, ห้องนั่งเล่น, ระเบียงภายนอก และทางขวามือจะเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ
เข้ามาในห้องมองย้อนไปทางพื้นที่ครัวจะเห็นว่าตัวครัวจะได้เป็นครัวเปิดเหมาะที่จัดเตรียมอาหารเบาๆ หรือซื้อของมาทานในห้องเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะทำครัวแบบจริงจังค่ะ
ชุดเคาน์เตอร์ครัว Built – in ที่ได้จะได้เป็น 2 ชิ้นคือชุดซิงค์ล้างจานชิ้นล่าง เป็นซิ้งล้างจานพร้อมก๊อกน้ำเย็นทรงโค้ง มีพื้นที่เตรียมอาหารด้านบนนิดหน่อย ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของ 1 ตู้ ลิ้นชัก 2 ลิ้นชักและช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟ
พื้นที่สำหรับเตรียมอาหารบนซิงค์ล้างจานจะสามารถวางถ้วยชามได้ประมาณ 2-3 ชุด
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจัดเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้เย็นค่ะ ส่วนตู้ลอยที่เราเห็นอยู่จะไม่ได้แถมมาให้ด้วยนะคะ
จากห้องครัว พื้นที่ถัดมาจะเป็นส่วนของพื้นที่ทานอาหาร โดยทางโครงการจัดตัวอย่างมาให้ดูเป็นโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง แบบติดผนัง ซึ่งถ้าใครที่ไม่ต้องใช้โต๊ะทานอาหารก็สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นที่นั่งทำงานได้หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะ 2 ที่นั่งแบบไม่เข้ามุมก็จะได้บรรยากาศที่อบอุ่นขึ้นอีกหน่อย แต่จะเสียพื้นที่ทางเดินเพิ่มค่ะ
ถัดมาในส่วนของพื้นที่ห้องนั่งเล่น ทางโครงการจะจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ดีแล้วค่ะ จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือสำหรับเป็นทางเดินเชื่อมเข้าไปยังพื้นที่ห้องนอนได้สะดวก
ฝั่งตรงข้ามทางโครงการจัดเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี โดยติดตั้งตู้เก็บของเล็กๆ มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะดูทีวีประมาณ 1 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 26″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
ถัดมาเราไปดูในส่วนของระเบียงภายนอกกันต่อ โดยประตูเชื่อมระหว่างพื้นที่ห้องนั่งเล่นและระเบียงภายนอกจะได้เป็น ประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง
ตัวมือจับแบบเซาะร่อง พร้อมตัวล็อค 2 ชั้น แบบมาตรฐานและแบบก้นหอย
พื้นที่ระเบียงจะมีธรณีประตู สูงขึ้นมาประมาณ 12 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นเข้ามาภายในห้อง พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีครีมขนาด 30 x 30 ซม. ราวกันตกเหล็กสีเขียว ขนาดระเบียงกว้างประมาณ 80 ซม. พอให้วางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าขนาดเล็กได้ค่ะ
สำหรับอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้ตรงระเบียงจะมีไฟติดผนัง 1 ดวง พร้อมปลั๊กเสียบและเดินระบบท่อมาให้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า
ถัดมาไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ โดยพื้นที่ห้องนอนจะเชื่อมอยู่กับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ไม่มีผนังกั้นตามแบบห้องสตูดิโอทั่วไปค่ะ
เข้ามาได้ในพื้นที่ห้องนอน จะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ภายในห้องนอนจะสามารถวางเฟอร์นิเจอร์สำคัญได้ครบคือเตียงขนาดควีนไซส์ โต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in ที่ทางโครงการจะแถมมาให้ในห้องนอนหลักทุกห้อง
สำหรับช่องแสงที่ได้ในห้องนี้จะได้เป็นช่องแสงบานใหญ่ ตัวบานเป็นบานกระทุ้งและกระจกบานฟิกซ์ บานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ค่อนข้างเยอะ
ส่วนตัวบางกระทุ้งสามารถเปิดได้กว้างพอสมควร สามารถใช้ระบายอากาศได้นิดหน่อย
สำหรับเตียงนอนที่วางมาให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นเตียงขนาดควีนไซส์
ระยะปลายเตียงที่เหลือหลังจากวางโซฟาและเตียงนอนแล้ว พอให้เดินผ่านได้สะดวก
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะติดตั้งตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in พร้อมทั้งโต๊ะหัวเตียงมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ได้จะได้เป็นตู้บานสูง ภายในตู้แบ่งเป็นราวแขวน 2 ระดับ, ลิ้นชัก, ช่องเก็บของ และตู้เล็กสำหรับเก็บพวกผ้าห่ม, ผ้าเช็ดตัวด้านบน
มือจับตัวตู้จะเป็นตัวจับเล็กๆ ยื่นออกมาให้พอจับได้แบบนี้ค่ะ
ภายในตู้จะมีลิ้นชัก 1 ลิ้นชักพร้อมกุญแจล็อคและช่องเก็บของแบ่งเป็นช่องย่อยๆอีก 2 ช่อง
ระยะการใช้งานฟังก์ชั่นตู้เสื้อผ้าเหลือเฟือค่ะ
ถัดมาดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ โดยห้องน้ำนี้จะอยู่ติดกับห้องนอนค่ะ
พื้นห้องน้ำจะมีธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 9 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นออกมาภายนอก
เข้ามาด้านในห้องน้ำจะมีฟังก์ชั่นครบถ้วน แบ่งแยกส่วนแห้งและส่วนเปียก
ไฟในห้องน้ำจะได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง พร้อมเครื่องดูดความชื้น
อ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างอะคริลิคสีขาว ทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยตัว ไม่มีเคาน์เตอร์ใต้อ่าง จึงอาจจะต้องหาชั้นวางของมาเพิ่มเติมกันเองสำหรับคนที่มีอุปกรณ์อาบน้ำเยอะๆนะคะ โดยอ่างล้างมือจะได้ ยี่ห้อ Charmer พร้อมก๊อกน้ำเย็น ยี่ห้อ American Standard มีพื้นที่วางของข้างอ่างนิดหน่อยค่ะ
สำหรับตัวโถสุขภัณฑ์จะได้เป็นของยี่ห้อ American Standard พร้อมอุปกรณ์ครบชุด คือสายชำระ, ที่วางกระดาษชำระและราวสำหรับแขวนผ้าเช็ดตัว ระยะการใช้งานพอให้นั่งใช้งานได้สะดวก
สายชำระหน้าตาธรรมดาสีเงิน
ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะได้เป็น Shower Box ติดตั้งมาให้ ตัวบานจะเป็นบานสไลด์ บานกรอบ สีเงิน กระจกนิรภัย พื้นห้องน้ำจะถูกกั้นพื้นที่ด้วยตัว Shower Box สูงขึ้นมาประมาณ 4 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นออกมาด้านนอก
มือจับจะเป็นแผ่นอลูมิเนียมยื่นออกมาให้จับได้สะดวก
ภายในห้องน้ำจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ American Standard แบบปรับระดับได้ พร้อมเดินสายไฟสำหรับรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ตัวฝักบัวขนาดค่อนข้างเล็กค่ะ
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.2 x 0.8 เมตร พอให้ยืนอาบน้ำได้สะดวก
มุมจากห้องนอนมองย้อนไปทางส่วนห้องนั่งเล่น, พื้นที่ทานอาหาร
มุมจากห้องนอนมองย้อนไปทางทางเข้าห้องและห้องครัวค่ะ
ต่อมาเรามาดูห้อง 1 Bedroom กันต่อ เป็นห้องขนาด 5.1 x 5.25 เมตร พื้นที่ใช้สอย 26 ตารางเมตร ภายในห้องได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวและตู้เสื้อผ้า Built – in ห้องนี้จะมีการจัดวางแปลนคล้ายๆกับห้องแบบที่แล้ว เพียงแต่จะมีการกั้นห้องนอนมาเพิ่ม และมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นโดยจากแปลนเมื่อเข้าไปในห้องแล้วก็จะเจอกับส่วน Pantry ครัว ต่อเนื่องไปเป็นพื้นที่ทำงาน, ห้องนั่งเล่นและระเบียงภายนอก โซนห้องนอนจะถูกกั้นแยกโดยสามารถเข้าได้จากพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่น
เมื่อเข้ามาในห้องนอนจะมีขนาดกว้างพอสมควร สามารถวางเฟอร์นิเจอร์จำเป็นได้ครบ ส่วนห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากห้องครัว ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก พร้อมสุขภัณฑ์ครบชุดค่ะ
เมื่อเข้ามาในห้องเราจะเห็นพื้นที่ในห้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือพื้นที่ห้องร้านอาหารห้องนั่งเล่นและระเบียงส่วนทางขวามือจะเป็นส่วนของห้องนอน, ห้องน้ำและห้องครัว
เข้ามาในห้องแล้วเรามาดูส่วนของพื้นที่ห้องครัวกันก่อนค่ะ
โดยชุดครัวที่ได้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้ว มีฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มขึ้น โดยจะมีพื้นที่เตรียมอาหารกว้างขึ้น สามารถวางเตาไฟฟ้าได้ ส่วนใต้ซิงค์ล้างจานจะมีตู้ก็บของ, ลิ้นชัก 4 ลิ้นชัก และช่องวางไมโครเวฟขนาดใหญ่
ส่วนตู้ลอยด้านบนจะแบ่งเป็นช่องเก็บของ 3 ช่อง และตู้เก็บของ 1 ตู้
ตัวตู้เก็บของได้เป็นบานเปิดแบบต้องใช้มือจับไว้ด้วย เปิดค้างไม่ได้ค่ะ
ระยะการใช้งานพอให้ยืนทำครัวได้สะดวก
กลับมาที่พื้นที่ส่วนทานอาหารและห้องนั่งเล่น
โดยห้องตัวอย่างทางโครงการจะจัดพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารเป็นห้องทำงาน โดยจะจัดเป็นโต๊ะแบบชิดผนัง 2 ที่นั่ง มีปลั๊กและสวิตช์ไฟติดตั้งมาให้เรียบร้อย ซึ่งการจัดห้องในลักษณะนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลานั่งทานอาหารแบบจริงจังเท่าไหร่ แต่ถ้าหากใครชอบที่จะใช้เป็นโต๊ะทานอาหารแบบเป็นสัดส่วนก็สามารถที่จะหาโต๊ะขนาด 2-3 ที่นั่งมาวางได้ จะยังพอมีพื้นที่เหลือสำหรับใช้งานส่วนอื่นอยู่ได้ค่ะ
ถัดมาในส่วนของห้องนั่งเล่น
ทางโครงการจัดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูเหมาะสมกับพื้นที่ดีค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นชุดตู้ Built – in ทีวี ส่วนในห้องมาตรฐานจะได้เป็นผนังเปล่านะคะ
ระยะการดูทีวีประมาณ 1.20 เมตร พอให้วางทีวีขนาด 32″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนของระเบียงภายนอก
พื้นระเบียงภายนอกปูด้วยกระเบื้องเซรามิค สีครีม ความกว้างระเบียงประมาณ 0.8 เมตร มีพื้นที่พอสำหรับวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าขนาดเล็ก
อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้มีโคมไฟ 1 ดวง ปลั๊กไฟและเดินท่อน้ำมารองรับสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า
การติดตั้งคอมเพรสเซอร์จะติดตั้งแบบลอยตัวไว้ด้านบนแบบนี้ค่ะ
กลับมาในตัวห้อง เราไปดูในส่วนของห้องน้ำและห้องนอนกันต่อ
โดยเราจะเริ่มที่ห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำจะติดตั้งฟังก์ชั่นให้ครบถ้วน แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม ผนังกรุด้วยกระเบื้องสีขาวและกระเบื้องตกแต่ง
อ่างล้างมือได้ของ Charmer เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยตัว มีพื้นที่วางของข้างอ่างนิดหน่อย พร้อมกระจกเงาทรงสูง
ส่วนโถสุขภัณฑ์ได้ของ American Standard พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ระยะการใช้งานพอสมควร
พื้นที่ส่วนเปียกติดตั้ง Shower Box กระจกนิรภัยใส กรอบสีเงิน
ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัวยี่ห้อ American Standard แบบ Hand Shower ปรับระดับได้ พร้อมเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.75 x 1.3 เมตร พอให้ยืนอาบน้ำได้สะดวก
ถัดมาเรามาดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ
ภายในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า Built – in ติดตั้งมาให้ สำหรับช่องแสงในห้องมาตรฐานของจริงจะได้เป็นชุดหน้าต่างบานฟิกซ์ และบานกระทุ้งเหมือนในห้องแบบ Studio นะคะ
สำหรับห้องนี้วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะข้างเตียงที่เหลือฝั่งซ้ายมือสามารถที่จะวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ 1 ตัว
ระยะปลายเตียงพอให้เดินผ่านได้สะดวก
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งติดตั้งเป็นตู้เสื้อผ้ามาตรฐาน
ระยะการใช้งานพอให้ใช้งานได้ไม่ติดขัด
มุมจากห้องนั่งเล่นมองย้อนไปทางห้องทานอาหารห้องครัวและประตูทางเข้า
ห้องตัวอย่างแบบที่ 3 จะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 7.65 x 5.25 เมตร พื้นที่ใช้สอยรวม 39 ตารางเมตร จากแปลน เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่โถงกว้าง แบ่งเป็นพื้นที่ครัว, พื้นที่ทานอาหารและห้องนั่งเล่นที่สามารถเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกได้ จากพื้นที่โถงด้านนอกจะสามารถเชื่อมถึงห้องนอน Master Bedroom และ ห้องนอนรองได้ ภายในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ครบชุด พร้อม Shower Box ติดตั้งมาให้
เมื่อเข้ามาในห้องพื้นที่ในห้องจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือพื้นที่ทางฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ของห้องทานอาหารและห้องนอนรอง
ส่วนพื้นที่ทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องครัว, ห้องนั่งเล่นและห้อง Master Bedroom
เรามาดูพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารก่อนค่ะ
โดยพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นมุมที่ค่อนข้างพิเศษกว่าห้องอื่นๆ เพราะเราสามารถที่จะปรับเปลี่ยนเป็นทั้งห้องทานอาหารและพื้นที่สำหรับนั่งผ่อนคลายได้ โดยในห้องตัวอย่างจะเห็นว่ามี Built – in ตู้ที่ใช้สำหรับโชว์ของและยังเป็นที่นั่งได้ในตัว สามารถช่วยประหยัดพื้นที่ได้ ทำให้ห้องดูมีลูกเล่นมากขึ้น
สำหรับโต๊ะทานอาหารที่เหมาะจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 4 – 5 ที่นั่งค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องนอนรองที่ติดกับห้องทานอาหารกันก่อนนะคะ
ในห้องนี้จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ 1 จุด โดยช่องแสงขนาดใหญ่นี้ของจริงจะได้เป็นชุดหน้าต่างบาน ฟิกซ์ และหน้าต่างบานกระทุ้งแบบมาตรฐานที่เราเห็นในห้อง Studio และห้องนี้จะได้เป็นห้องเปล่าไม่มีตู้เสื้อผ้าแถมมาให้นะคะ
มาดูการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องตัวอย่างกันต่อ เริ่มจากวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตแบบชิดมุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะถูกจัดเป็นโต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้ามาให้ดูระยะการใช้งาน
พื้นที่ที่เหลือสำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นตู้เสื้อผ้าพอให้เหลือใช้งานได้สะดวก แต่ถ้าหากวางเตียงขนาดควีนไซส์เพิ่มเข้ามาก็อาจจะต้องเอาโต๊ะหัวเตียงออก และตู้เสื้อผ้าที่ได้ก็จะมีขนาดเล็กลงด้วยค่ะ
กลับมาที่ห้องทานอาหาร จากมุมห้องทานอาหารมองไปทางอีกฝั่งของห้อง เราจะเห็นพื้นที่ส่วนห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้อง Master Bedroom และห้องนั่งเล่นทางขวามือค่ะ
เรามาดูส่วนของห้องครัวกันก่อน โดยพื้นที่ห้องครัวจะได้เคาน์เตอร์ครัว Built – in มาให้ 1 ชุด เป็นชุดขนาดเดียวกับห้องแบบ 1 Bedroom
จากห้องครัวเราจะไปดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันก่อน
สำหรับพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นห้องนี้จะมีขนาดกว้างกว่าห้องอื่นๆ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้พอดี
ตรงข้ามสามารถที่จะติดตั้ง TV แบบลอยตัวหรือจะ Built – in ตู้ตามห้องตัวอย่างก็ได้ค่ะ
ระยะดูทีวีประมาณ 1.30 สามารถวางทีวีขนาด 32″ จะระยะดูทีวีที่เหมาะสม
จากห้องนั่งเล่นจะสามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอก
พื้นที่ระเบียงภายนอกความกว้างระเบียงประมาณ 0.8 เมตร อุปกรณ์ติดตั้งจะได้โคมไฟ 1 ดวง, ปลั๊กไฟและเดินท่อสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ก็ยังคงต้องติดตั้งแบบลอยตัวเหมือนห้องอื่นๆค่ะ
มุมจากห้องระเบียงมองย้อนเข้ามาทางห้องครัวและประตูทางเข้าห้องค่ะ
กลับมาในตัวห้องเราไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันต่อ
ภายในห้อง Master Bedroom จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ โดยบานจริงที่ได้จะไม่ใช่หน้าต่างบานเต็มอย่างในห้องตัวอย่างนะคะ แต่จะได้เป็นชุดหน้าต่างมาตรฐานแบบในห้อง Studio ค่ะ และในห้องนี้ก็จะได้ตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in มาให้ 1 หลัง
สำหรับเตียงที่จัดมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นเตียงขนาดควีนไซส์
ระยะข้างเตียงที่เหลือสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ 1 ตัว
ระยะปลายเตียงพอให้เดินผ่านได้สะดวก
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งติดตั้งตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in
ระยะการใช้งานพอให้ใช้งานได้สะดวก โดยพื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้ไม่เหมาะที่จะวางโต๊ะหัวเตียงเท่าไหร่ เพราะอาจจะทำให้ขวางการเปิดปิดของตู้เสื้อผ้าค่ะ
เราไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ
ภายในห้องน้ำได้ฟังก์ชั่นครบ แยกส่วนแห้งส่วนเปียก
อ่างล้างมือได้อ่างทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยตัว ยี่ห้อ Charmer พร้อมก๊อกน้ำเย็น American Standard โถสุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ระยะการใช้งานพอใช้งานได้สะดวกเหมาะสมพื้นที่
พื้นที่อาบน้ำติดตั้ง Shower Box โดยห้องนี้จะได้เป็นบานสไลด์ 3 ตอนเปิดได้กว้างขึ้นกว่าแบบห้องอื่นค่ะ
ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัว American Standard แบบ Hand Shower ปรับระดับได้มาให้ พร้อมถาดวางสบู่
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.1 x 0.8 เมตร พอให้ยืนอาบได้ไม่อึดอัดค่ะ
ราคา
- ห้องแบบ Studio ขนาด 22.50 ราคา 1.45 – 1.65 ล้านบาท
- ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.00 ตร.ม. 1.70 – 1.90 ล้านบาท
- ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 39.00 ตร.ม. ราคา 2.50 – 2.80 ล้านบาท
- ค่าส่วนกลางตารางวาละ 43 บาท/ตร.ม./เดือน ชำระล่วงหน้า 12 เดือน, เรียกเก็บจริง 38 บาท/ตร.ม./เดือน ในปีที่ 1 – 2 ปี
- เงินกองทุน 600 บาท/ตร.ม./เดือน
- ค่าชดเชยที่จอดรถยนต์ 300 บาท/คัน/เดือน, รถจักรยานยนต์ 50 บาท/คัน/เดือน
สรุป
ทำเล :โครงการ Lumpini Place บางนา กม.3 ตั้งอยู่ในซอยบางนา – ตราด 23 ฝั่งมุ่งหน้าบางนา – ตราด ซอยนี้จะสามารถใช้ทะลุออกไปยังถนนศรีนครินทร์และถนนอุดมสุขได้ทางซอยอุดมสุข 60 และซอยศรีนครินทร์ 56 และ 58 โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่ช่วงกลางซอยระยะประมาณ 600 เมตร จากปากซอยฝั่งบางนา – ตราด และระยะทางประมาณ 1.2 กม. ถึงถนนศรีนครินทร์ และระยะทางประมาณ 950 ถึงถนนอุดมสุข
สภาพแวดล้อมโดยรวมในซอยจะมีคนอยู่อาศัยค่อนข้างเยอะ มีคอนโด 2 โครงการและมีอพาร์ทเมนต์ Low Rise หลายแห่ง ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็มีสูงมากเช่นกัน โดยต้นซอยมี Central บางนาและ Big C เข้าซอย มาจะมี Bizzo บางนา เป็น Avenue ภายในมีร้านอาหารและบริการอยู่หลายร้าน นอกจากนั้นก็จะมีร้านอาหารดีๆหลายร้าน หลากหลายประเภท ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารทะเล, ร้านกาแฟ และร้านบุฟเฟ่ต์ เป็นต้น ส
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว :โครงการ Lumpini Place บางนา กม.3 การเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกโดยถนนเส้นหลักที่ใช้เป็นถนนบางนา – ตราด เชื่อมไปยังถนนเส้นสำคัญๆต่างๆ เช่น ถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์, ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้, ถนนกิ่งแก้ว ที่ช่วยให้เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก นอกจากนั้นตัวซอยสามารถลัดเลาะไปออกถนนอุดมสุข และถนนศรีนครินทร์จึงสามารถเลือกใช้เส้นทางในการหลีกเลี่ยงรถติดในเวลาต่างๆได้ และอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี, ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ (ถนนกาญจนาภิเษก)
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : โครงการจะมีรถแวน 2 คัน สำหรับรับ – ส่งไป BTS อุดมสุข (โดยจะเสียค่าโดยสารในแต่ละครั้งต่างหาก) หรือสามารถเดินมาหน้าปากซอยฝั่งถนนบางนา – ตราด จะมีคิวรถตู้ค่ะ และมีป้ายรถเมล์ มีรถเมล์สาย 2ส, 38ร, 45ส, 46ร, 48ร, 98ร, 132ร, 180, 558 และมีสะพานข้ามฝั่งถนนก็จะมีรถเมล์สายเดียวกันวิ่งเข้าเมืองค่ะ นอกจากนั้นก็สามารถเรียก Taxi และพี่วินที่วิ่งผ่านหน้าโครงการได้ตลอด
ส่วนรถไฟฟ้าในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะมีสถานีแยกศรีอุดมที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยตัวสถานีจะอยู่บริเวณแยกศรีนครินทร์ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
การออกแบบโครงการและแบบห้อง :โครงการเป็นกลุ่มอาคาร Low Rise 3 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 609 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 5 ไร่เศษ หน้าตาภายนอกของตัวอาคารดูดีแบบเรียบๆสไตล์ลุมพินี ฟังก์ชั่นตัวอาคาร ที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด ชั้น 2 – 8 จะเป็นยูนิตพักอาศัย มีส่วนกลางใช้ร่วมกันอยู่ตรงกลางของทั้ง 3 อาคาร แบบห้องภายในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบ คือแบบ Studio 22.50 ตร.ม., 1 Bedroom 26 ตร.ม., 2 Bedroom 39 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในโดยรวมจัดออกมาให้พอใช้งานได้สะดวกตามลักษณะของแต่ละ Type โดยห้องแบบ Studio และ 1 Bedroom จะเหมาะกับคนโสดที่อาจจะไม่ค่อยมีเวลา และไม่ค่อยทำอาหารบ่อยนัก เพราะครัวที่ได้มามีขนาดค่อนข้างเล็ก และพื้นที่สำหรับทานอาหารค่อนข้างแคบ ส่วนห้อง 2 Bedroom จะมีครัวที่กว้างขึ้นมาอีก และมีพื้นที่ทานอาหารจึงเหมาะสำหรับคนมีคู่หรือคนที่ทำอาหารทานเองบ่อยๆ
ห้องของโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted ความสูงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร ทุกห้องจะได้เคาน์เตอร์ครัว Built – in, ตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in ในห้องนอน Master Bedroom, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำพร้อม Shower Box วัสดุที่ได้พื้นปูลามิเนต สุขภัณฑ์ของ American Standard และ Charmer บานประตูเชื่อมระเบียง และช่องแสงเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ลูกฟักกระจากเขียวตัดแสง
สาธารณูปโภค :Facility ของโครงการให้มาพอสมควร แต่อาจจะไม่เพียงพอถ้าลูกบ้านลงมาใช้พร้อมๆกัน โดยส่วนกลางจะมี สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สวนสาธารณะ, Fitness, ห้องคุณหนู, ห้องเปี่ยมสุข, ห้องเรียนรู้
ที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 200 คัน หรือประมาณ 34% รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งถือว่าอาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับทำเลที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวค่อนข้างสะดวกกว่าแบบนี้ ลิฟท์มีอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนแต่ละอาคารพอให้ใช้งานได้ไม่หนาแน่น ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. 24 ชม. CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access
ตารางคะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | ในซอยบางนา – ตราด 23 มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ Central บางนา และ Big C บางนา บรรยากาศคึกคัก ตัวซอยเข้าถึงได้จากถนน 3 เส้น |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เดินทางสะดวก สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้หลายสาย และใกล้จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี, ทางด่วนเฉลิมมหานคร, วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.0 | สะดวก มีรถรับส่งจากโครงการไป BTS อุดมสุข หรือเดินออกมาหน้าปากซอยก็จะถึงถนนใหญ่ มีคิวรถตู้, พี่วิน, รถเมล์ |
ห้องและวัสดุ | 7.5 | แบบห้องมาตรฐานลุมพินี วัสดุที่ใช้อยู่ในระดับมาตรฐาน ขายแบบ Fully Fitted ได้เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้า Built – in |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.5 | มีพอสมควรอาจจะมีใช้งานแน่นๆบ้างในวันหยุด สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness, ห้องคุณหนู, ห้องเปี่ยมสุข,นิติบุคคล และสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัยมีซุ้มทางเข้าหลัก ใช้ Key Card Access ระยะใกล้ มีกล้อง CCTV และรปภ. 24 ชม. และใช้ Key Card แยกแต่ละอาคาร |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | เหมาะสำหรับผู้ที่หาคอนโดย่านบางนาในงบประมาณไม่สูง |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.83 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-396-1600
Website : http://www.lpn.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ